เกษตรจันท์ รวมพลังภาคีเครือข่าย สร้างการรับรู้เกษตรกร ฝ่าวิกฤตลำไยจันท์ ยกระดับคุณภาพผลไม้ส่งออกสู่มาตรฐานสากล
วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2568 สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี  จัดกิจกรรม “การสร้างการรับรู้ให้แก่เกษตรกรเพื่อผลิตผลไม้ให้มีคุณภาพปลอดภัยตามหลักมาตรฐานสากล” ภายใต้หัวข้อ “ฝ่าวิกฤตลำไยจันท์…ก้าวต่อไปอย่างไรดี” ณ สหกรณ์โคนมสอยดาว จำกัด อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี 
นายมงคล เลิศพรทิพย์ นายอำเภอสอยดาว ประธานในพิธีเปิด wfhกล่าวชื่นชมความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรเกษตรกร ที่ร่วมกันขับเคลื่อนงานในครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียง พร้อมย้ำว่า ความร่วมมือเช่นนี้จะเป็นพลังสำคัญในการ พัฒนาเกษตรกรจันทบุรีให้ก้าวทันมาตรฐานสากล และคงไว้ซึ่งความเชื่อมั่นของตลาดต่างประเทศ นางสาวจารุวรรณ ทองใบ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดจันทบุรีมีพื้นที่ปลูกลำไยมากกว่า 141,000 ไร่ ผลผลิตรวมกว่า 370,000 ตัน โดยร้อยละ 54 อยู่ในพื้นที่อำเภอสอยดาว จึงจำเป็นต้องเร่งสร้างความเข้าใจให้เกษตรกรและผู้ประกอบการปรับตัวตามมาตรฐานใหม่ เพื่อรักษาตลาดส่งออกและรายได้ของจังหวัด
 ภายในงานมีเกษตรกรและผู้ประกอบการกว่า 200 คนเข้าร่วมรับฟังการบรรยายความรู้ใน 4 หัวข้อ ได้แก่
 1️⃣ การจัดการสวนลำไยคุณภาพตามมาตรฐาน GAP เพื่อการส่งออก
 2️⃣ การใช้สารเคมีอย่างถูกต้องและปลอดภัย
 3️⃣ การวิเคราะห์สารเคมีที่เป็นสาเหตุให้จีนระงับการนำเข้า
 4️⃣ การแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ซื้อขายลำไยในพื้นที่
 นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการ “การจัดการศัตรูพืชด้วยวิธีผสมผสาน” และบริการให้คำปรึกษา-ขึ้นทะเบียนเกษตรกร รวมถึงสมัครและต่ออายุใบรับรอง GAP เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรดำเนินการตามหลักมาตรฐานสากลอย่างต่อเนื่อง
กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจและเตรียมความพร้อมให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ปรับตัวให้สอดคล้องกับมาตรการใหม่ของ สาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) ซึ่งได้ยกระดับการตรวจสอบคุณภาพลำไยจากเดิมตรวจเฉพาะ “เนื้อลำไย” เป็น “เปลือกและเนื้อรวมกัน” โดยต้องมีสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO₂) ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (ppm) เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยของตลาดปลายทาง
ภายในงานมีการถ่ายทอดองค์ความรู้จากหน่วยงานภาคีเครือข่ายด้านการเกษตร เพื่อยกระดับคุณภาพผลผลิตลำไยตั้งแต่ระดับสวนจนถึงโรงคัดบรรจุ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสอบถามข้อสงสัยอย่างใกล้ชิด โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่อย่างกว้างขวาง อาทิ สหกรณ์โคนมสอยดาว จำกัด สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 สมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย–กัมพูชา สมาคมชาวสวนลำไยจังหวัดจันทบุรี และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น














































 
							 
							